การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาจาก Google ไปจนถึง TikTok และ Instagram

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในวิธีที่ผู้คนค้นหาข้อมูลออนไลน์ เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิม เช่น Google ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียวที่ใช้ค้นหาข้อมูลอีกต่อไป ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok และ Instagram กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชมที่อายุน้อย การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหานี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

บทความนี้จะเจาะลึกถึงเหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้และวิธีที่ธุรกิจต่างๆ จะปรับตัวเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป
การเติบโตของ TikTok และ Instagram ในฐานะเครื่องมือค้นหา
1. เนื้อหาที่ดึงดูดสายตาและน่าสนใจ
เหตุผลหลักประการหนึ่งที่เปลี่ยนจาก Google มาเป็น TikTok และ Instagram ก็คือลักษณะของเนื้อหาที่แพลตฟอร์มเหล่านี้นำเสนอ TikTok และ Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพเป็นหลัก โดยข้อมูลจะถูกนำเสนอผ่านวิดีโอและรูปภาพที่น่าสนใจ การดึงดูดด้วยภาพนี้ดึงดูดคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งชอบเนื้อหาที่อ่านง่ายและรวดเร็วมากกว่าข้อมูลที่เป็นข้อความยาวๆ

2. การค้นพบที่เป็นส่วนตัว
TikTok และ Instagram โดดเด่นในด้านการค้นหาเนื้อหาเฉพาะบุคคล อัลกอริทึมของทั้งสองจะคัดเลือกเนื้อหาตามความสนใจของผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องค้นหาอย่างจริงจัง กระบวนการค้นหาแบบพาสซีฟนี้แตกต่างจาก Google ที่ผู้ใช้ต้องพิมพ์คำค้นหาเฉพาะเพื่อค้นหาข้อมูล

3. การค้นหาที่ขับเคลื่อนโดยผู้มีอิทธิพล
ผู้มีอิทธิพลมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมการค้นหาบน TikTok และ Instagram ผู้ใช้มักพึ่งพาคำแนะนำและรีวิวจากผู้มีอิทธิพลสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ต่างๆ แนวโน้มนี้ส่งผลให้การค้นหาโดยตรงบนแพลตฟอร์มเหล่านี้เพิ่มขึ้นเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ได้รับการรับรองจากผู้มีอิทธิพล

4. ชุมชนและการโต้ตอบ
ลักษณะการโต้ตอบของ TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับผู้สร้างเนื้อหาและผู้ใช้รายอื่น ๆ ผ่านทางความคิดเห็น การกดไลค์ และการแชร์ ความรู้สึกถึงชุมชนและการโต้ตอบแบบเรียลไทม์นี้ไม่ค่อยพบเห็นในเครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิม ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่แสวงหาประสบการณ์แบบชุมชน

ผลกระทบต่อการตลาดออนไลน์
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาจาก Google ไปสู่ ​​TikTok และ Instagram ทำให้ต้องมีการประเมินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ใหม่ ต่อไปนี้คือข้อควรพิจารณาหลักบางประการสำหรับธุรกิจ:

1. ยอมรับเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ
หากต้องการใช้ประโยชน์จากความนิยมของ TikTok และ Instagram ธุรกิจต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาวิดีโอคุณภาพสูง ซึ่งรวมถึงวิดีโอสั้นๆ ที่น่าสนใจและดึงดูดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว บทช่วยสอน การสาธิตผลิตภัณฑ์ วิดีโอเบื้องหลัง และเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นอาจมีประสิทธิผลเป็นพิเศษ

2. ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล
การร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลสามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นและสร้างความน่าเชื่อถือได้ ผู้มีอิทธิพลสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างแท้จริง กระตุ้นการเข้าชมและยอดขายผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์ การเลือกผู้มีอิทธิพลที่มีกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับกลุ่มประชากรเป้าหมายของแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

3. เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาในแพลตฟอร์ม
ธุรกิจต่างๆ ควรปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสำหรับเครื่องมือค้นหาเช่นกัน โดยควรปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสำหรับการค้นหาภายในแพลตฟอร์มบน TikTok และ Instagram ด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการใช้แฮชแท็ก คำบรรยาย และคำสำคัญที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ค้นหาเนื้อหาได้ การทำความเข้าใจอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มและการจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีประสิทธิผล

4. มีส่วนร่วมกับชุมชน
การมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามและลูกค้าที่มีศักยภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ การตอบกลับความคิดเห็น การมีส่วนร่วมในกระแส และการสร้างเนื้อหาแบบโต้ตอบ เช่น การสำรวจความคิดเห็นและเซสชันถาม-ตอบ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดชุมชนที่แข็งแกร่งรอบๆ แบรนด์ การมีส่วนร่วมนี้สามารถเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มการมองเห็นได้

5. ตรวจสอบและปรับตัว
ภูมิทัศน์ดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจต่างๆ ต้องคอยอัปเดตเทรนด์ล่าสุดและพฤติกรรมของผู้ใช้ การตรวจสอบข้อมูลและเมตริกประสิทธิภาพบน TikTok และ Instagram อย่างสม่ำเสมอสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ผลและไม่ได้ผล แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงและปรับใช้กลยุทธ์การตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาจาก Google ไปสู่ ​​TikTok และ Instagram สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างของวิธีที่ผู้คนบริโภคข้อมูลและตัดสินใจซื้อสินค้า สำหรับธุรกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้มีทั้งความท้าทายและโอกาส ธุรกิจต่างๆ สามารถนำทางภูมิทัศน์ใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปรับปรุงความพยายามทางการตลาดออนไลน์ของตนได้ โดยการนำเนื้อหาวิดีโอมาใช้ การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล การปรับให้เหมาะสมสำหรับการค้นหาบนแพลตฟอร์ม การมีส่วนร่วมกับชุมชน และการตรวจสอบประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังคงพัฒนาต่อไป การคล่องตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดดิจิทัล

Scroll to Top