ปรับตัวให้เข้ากับโลกที่ปราศจากคุกกี้ การตลาดออนไลน์ในยุคใหม่

การหายไปของ Cookie เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการตลาดออนไลน์ ผู้ประกอบการและนักการตลาดจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจยังคงเติบโตและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งเคยเป็นเสาหลักของการโฆษณาออนไลน์ กำลังจะถูกยกเลิกไป ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google และ Apple กำลังดำเนินการ

เพื่อให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งจะนำไปสู่อนาคตที่ไม่มีคุกกี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ทำการตลาดต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ธุรกิจต่างๆ สามารถเติบโตได้อย่างไรในโลกที่ไม่มีคุกกี้:

1. ยอมรับข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง
เมื่อคุกกี้ของบุคคลที่สามหายไป การพึ่งพาข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งจึงมีความสำคัญมากขึ้น ข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งคือข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจากลูกค้า เช่น ผ่านการโต้ตอบบนเว็บไซต์ ประวัติการซื้อ และการสมัครรับอีเมล นักการตลาดควรเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายโดยสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายแบ่งปันข้อมูลโดยสมัครใจ กลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่ การนำเสนอเนื้อหาพิเศษ ประสบการณ์ส่วนบุคคล และโปรแกรมความภักดีที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้ให้รายละเอียดของตน

2. การกำหนดเป้าหมายตามบริบท
ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากคุกกี้ การโฆษณาตามบริบทกำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แนวทางนี้เกี่ยวข้องกับการวางโฆษณาบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มโดยอิงตามเนื้อหาที่แสดง แทนที่จะอิงตามพฤติกรรมของผู้ใช้ การจัดวางโฆษณาให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้ทำการตลาดยังคงสามารถมอบประสบการณ์ส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการติดตามที่รุกราน ตัวอย่างเช่น โฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถวางไว้ในบล็อกเกี่ยวกับความยั่งยืน ทำให้มั่นใจได้ถึงความเกี่ยวข้องโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

3. ใช้ประโยชน์จากระบบ CRM
เครื่องมือการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมและจัดการข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการบูรณาการระบบ CRM เข้ากับแพลตฟอร์มอัตโนมัติทางการตลาด ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแคมเปญที่ปรับแต่งได้สูงโดยอิงตามความชอบของลูกค้า การโต้ตอบก่อนหน้านี้ และพฤติกรรม วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงเป้าหมายในขณะที่ยังเคารพหลักเกณฑ์ความเป็นส่วนตัว

4. ข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง
ข้อมูลแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะคือข้อมูลที่ลูกค้าแบ่งปันกับแบรนด์โดยเจตนาและเชิงรุก ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากแบบสำรวจ การตั้งค่าที่ผู้ใช้กำหนด หรือการโต้ตอบกับแบบทดสอบ ด้วยการดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาแบบโต้ตอบ ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าได้ในขณะที่ยังคงความโปร่งใสและเชื่อถือได้

5. เน้นความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความไว้วางใจของผู้บริโภค สื่อสารอย่างชัดเจนว่าข้อมูลจะถูกใช้อย่างไร และเสนอนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้าใจง่าย การเสนอให้ลูกค้าควบคุมข้อมูลของตนเองได้ เช่น ตัวเลือกความยินยอมที่ปรับแต่งได้ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวบนพื้นฐานของความไว้วางใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งและของบุคคลที่หนึ่ง

6. ใช้ประโยชน์จาก AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักร
แม้ในโลกที่ไม่มีคุกกี้ เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักรสามารถช่วยให้แบรนด์ต่างๆ คาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้โดยอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ได้ โดยการวิเคราะห์รูปแบบในข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งและใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับปรุงความพยายามในการปรับแต่งและส่งมอบเนื้อหาหรือข้อเสนอที่เกี่ยวข้องโดยไม่ต้องใช้คุกกี้

7. ร่วมมือกับ Walled Gardens
สวนที่มีกำแพงล้อมรอบ เช่น แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Google และ Amazon ยังคงรวบรวมข้อมูลจำนวนมากจากผู้ใช้ การเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายได้ในขณะที่เคารพกฎระเบียบความเป็นส่วนตัว แม้ว่านักการตลาดจะต้องทำงานภายในขอบเขตของแพลตฟอร์มเหล่านี้ แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ยังเปิดโอกาสอันมีค่าสำหรับการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย

8. เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผ่านอีเมล
การตลาดผ่านอีเมลจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในโลกที่ไม่มีคุกกี้ ด้วยการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้า แคมเปญอีเมลช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบเนื้อหาที่ปรับแต่งตามความต้องการได้โดยไม่ต้องมีการติดตามจากบุคคลที่สาม ธุรกิจสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและการแปลงข้อมูลได้โดยการแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมลและใช้การตั้งค่าของลูกค้า

9. เสริมสร้างกลยุทธ์เนื้อหาออร์แกนิก
หากไม่มีคุกกี้เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ทั่วทั้งเว็บ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและน่าสนใจจะกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงดูดผู้ชมโดยธรรมชาติ ลงทุนใน SEO บล็อก เนื้อหาวิดีโอ และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ตามธรรมชาติ ยิ่งเนื้อหาของคุณมีคุณค่าและเกี่ยวข้องมากเท่าใด ลูกค้าก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณมากขึ้นเท่านั้น

10. สำรวจโซลูชันที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก
เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวกำลังเกิดขึ้นเพื่อมาแทนที่ฟังก์ชันคุกกี้ของบุคคลที่สาม ตัวอย่างเช่น ระบบการเรียนรู้แบบรวมกลุ่ม (Federated Learning of Cohorts หรือ FLoC) ของ Google มีเป้าหมายที่จะให้การกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพในขณะที่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยจัดกลุ่มผู้ที่มีพฤติกรรมการเรียกดูแบบเดียวกันเป็นกลุ่มแทนที่จะติดตามผู้ใช้รายบุคคล คอยจับตาดูการพัฒนาเหล่านี้และนำมาผนวกเข้ากับกลยุทธ์การตลาดของคุณ

การปรับตัวเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
แม้ว่าการเปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ไม่มีคุกกี้จะนำมาซึ่งความท้าทาย แต่ก็เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจในการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากขึ้นกับลูกค้า การเน้นที่ข้อมูลของบุคคลที่หนึ่ง ความโปร่งใส และเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้นักการตลาดสามารถนำทางภูมิทัศน์ใหม่นี้และเติบโตต่อไปได้ การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในตอนนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณยังคงคล่องตัวและสามารถแข่งขันได้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงนี้

Scroll to Top