รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนพบกับรักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านในกรุงเตหะรานเมื่อวันอาทิตย์ โดยที่สหรัฐและพันธมิตรอาหรับพยายามป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในวงกว้างขึ้น หลังจากเหตุสังหารต่อเนื่องกันของนักรบระดับสูงที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ทำให้มีการกล่าวปฏิญาณที่จะแก้แค้นอิสราเอล
อัยมัน ซาฟาดีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจอร์แดนคนแรกที่เยือนอิหร่านอย่างเป็นทางการในรอบกว่า 20 ปี จอร์แดนเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของชาติตะวันตก และช่วยสกัดกั้นขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากที่อิหร่านยิงใส่อิสราเอลในเดือนเมษายน อิหร่านกล่าวว่ากำลังตอบโต้การสังหารนายพลของตนในการโจมตีของอิสราเอลในซีเรีย
หลายคนเกรงว่าอิหร่านและพันธมิตรในภูมิภาคอาจเปิดฉากโจมตีในลักษณะเดียวกันนี้ หลังจากที่ อิสราเอลสังหาร ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในการโจมตีกรุงเบรุตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสังหารผู้นำทางการเมืองระดับสูงของกลุ่มฮามา ส อิสมาอิล ฮานีเยห์ในเหตุระเบิดที่เตหะรานในวันต่อมา การโจมตีทั้งสองครั้งมักถูกกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้สังหารผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อิหร่าน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มฮามาส ต่างประกาศจะแก้แค้นให้กับการสังหารดังกล่าว
จอร์แดนซึ่งติดพรมแดนอิสราเอลทางทิศตะวันออก น่าจะอยู่ในเส้นทางการโจมตีตอบโต้ของอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศจอร์แดนได้ออกแถลงการณ์ว่า ซาฟาดี “จะทรงส่งสารจากพระบาทสมเด็จพระราชาอับดุลลาห์ที่ 2 ถึงประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน เกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและความสัมพันธ์ทวิภาคี”
ต่อมารัฐมนตรีต่างประเทศจะพบกับประธานาธิบดีอิหร่านที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ตามรายงานของโทรทัศน์แห่งรัฐอิหร่าน
ซาฟาดี ยืนกรานว่า ความตึงเครียดในภูมิภาคจะยุติลงเมื่อสงครามในฉนวนกาซายุติลงเท่านั้น ระหว่างการพบปะกับรักษาการ รัฐมนตรีต่างประเทศ อาลี บาเกรี คานี โทรทัศน์ของรัฐรายงาน และเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสัมพันธ์ทวิภาคี พัฒนาการในภูมิภาค และ “การกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ในการลอบสังหารฮานียะห์ ผู้พลีชีพ”
ภายหลังการประชุม กระทรวงต่างประเทศของจอร์แดนออกแถลงการณ์ว่า การเยือนของนายซาฟาดีมีขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับ “การลุกลามของสถานการณ์ที่อันตราย” ทั่วตะวันออกกลาง นายซาฟาดีกล่าวว่า “เราต้องการให้ภูมิภาคของเราดำรงอยู่ด้วยความมั่นคง สันติภาพ และเสถียรภาพ และเราต้องการให้การลุกลามของสถานการณ์ยุติลง” โดยนายซาฟาดีเรียกร้องให้ยุติสงครามในฉนวนกาซา และเริ่มต้นการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อีกครั้ง
ซาฟาดีย้ำคำประณามของจอร์แดนต่อการสังหารฮานิเยห์อีกครั้ง โดยเรียกว่าเป็น “ก้าวกระโดด” และเรียกร้องให้สงบสติอารมณ์ เนื่องจากเกรงว่าสงครามในภูมิภาคจะมี “ผลกระทบร้ายแรงต่อทุกคน”
“เราได้เริ่มดำเนินการเจรจาเชิงลึกซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ภายใต้กรอบการปรึกษาหารือเกี่ยวกับวิธีการแสดงจุดยืนของเราอย่างชัดเจนในการประณามอาชญากรรมที่ก่อขึ้น และในการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเคารพอำนาจอธิปไตยของอิหร่านและกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องภูมิภาคของเราจากผลที่ตามมาอันเลวร้าย” เขากล่าวเสริม
ครั้งสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจอร์แดนเดินทางไปอิหร่านอย่างเป็นทางการคือเมื่อปี 2547 เมื่อนายกรัฐมนตรีไฟซาล อัลฟาเยซในขณะนั้นเดินทางไปเตหะราน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จอร์แดนส่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเปเซชเคียน
ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งอยู่ที่เตหะรานเพื่อเข้าร่วมพิธี เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ทางการอิหร่านระบุว่าเกิดจากกระสุนปืนระยะใกล้
จอร์แดนให้ความร่วมมือกับกองกำลังอเมริกันภายใต้การดูแลของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ซึ่งกำกับดูแลการปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางและทำงานอย่างใกล้ชิดกับกองทัพอื่นๆ รวมถึงกองทัพอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย
โอมาร์ อากูร์ ผู้สื่อข่าวเอพีในกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน มีส่วนร่วมในการรายงานฉบับนี้